จิ่วจ้ายโกว (Jiuzhaigou)
จิ่วจ้ายโกว (Jiuzhaigou)
Blog Article
จิ่วจ้ายโกว (Jiuzhaigou) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นของประเทศจีน ตั้งอยู่ในมณฑลเสฉวน (Sichuan Province) และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี 1992 เนื่องจากความงดงามทางธรรมชาติและความสำคัญทางระบบนิเวศ
จุดเด่นของจิ่วจ้ายโกว
ทะเลสาบหลากสี (Multi-Coloured Lakes)
ทัวร์จีน
ทะเลสาบในจิ่วจ้ายโกวมีสีสันที่หลากหลาย เช่น สีฟ้าใส สีเขียวมรกต และสีเหลืองทอง อันเกิดจากแร่ธาตุในน้ำและแสงที่สะท้อนผิวน้ำ
น้ำตกที่งดงาม (Scenic Waterfalls)
น้ำตกนู๋รื่อหลาง (Nuorilang Waterfall) และน้ำตกเพิร์ลโช (Pearl Shoal Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงด้วยกระแสน้ำที่ตกลงมาจากหน้าผาอย่างสง่างาม
หุบเขาธรรมชาติ (Purely natural Valleys)
จิ่วจ้ายโกวประกอบด้วยหุบเขาหลายแห่งที่ล้อมรอบด้วยภูเขาสูง เช่น หุบเขาชูเจิ้ง (Shuzheng Valley) และหุบเขารื่อเจ๋อ (Rize Valley) ซึ่งเต็มไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์
ป่าเขียวขจีและภูเขาหิมะ
สวนป่าอุดมสมบูรณ์ตัดกับยอดเขาหิมะที่อยู่ล้อมรอบ สร้างทิวทัศน์ที่งดงามและหลากหลายตามฤดูกาล
การเดินทางไปจิ่วจ้ายโกว
ทางอากาศ: สนามบินจิ่วจ้ายโกว (Jiuzhai Huanglong Airport) อยู่ห่างจากอุทยานประมาณ 88 กิโลเมตร มีเที่ยวบินตรงจากเฉิงตู (Chengdu) และเมืองใหญ่ในจีน
ทางรถยนต์: การเดินทางจากเฉิงตูใช้เวลาประมาณ eight-ten ชั่วโมง แต่เส้นทางนี้จะมอบวิวทิวทัศน์ภูเขาที่สวยงามตลอดทาง
ช่วงเวลาที่เหมาะสม
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน): ช่วงนี้ทะเลสาบและป่าจะเปลี่ยนสีสันเป็นโทนอุ่น สวยงามเป็นพิเศษ
ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน-มิถุนายน):ทัวร์จีน
น้ำตกมีปริมาณน้ำมาก และต้นไม้เริ่มผลิใบเขียวชอุ่ม
ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์): หิมะปกคลุมภูเขาและน้ำตกกลายเป็นน้ำแข็ง สร้างบรรยากาศที่โรแมนติก
ข้อควรระวัง
เนื่องจากจิ่วจ้ายโกวตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีความสูงกว่า 2,000 เมตร นักท่องเที่ยวบางคนอาจประสบปัญหาอาการแพ้ความสูง ควรเตรียมตัวและพักผ่อนให้เพียงพอก่อนเดินทาง
จิ่วจ้ายโกวเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่รักธรรมชาติและต้องการสัมผัสความงดงามของภูมิประเทศที่ไม่เหมือนที่ใดในโลก